ข้อมูลการออกอากาศ ของ เดอะเฟซเมนไทยแลนด์ ซีซัน 1

ตอนที่ 1 : Casting

ออกอากาศ 29 กรกฎาคม 2560

ในช่วงแรก ซาบิน่า อจิรภา ไมซิงเกอร์ ซึ่งรับหน้าที่เป็น พิธีกร ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านการคัดเลือกมาทั้งหมด 41 คน และได้ให้ทุกคนเริ่มการถ่ายภาพหน้าธรรมชาติเพื่อที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป ขณะนั้นเมนเทอร์ทั้งสามคนในซีซันนี้คือ ลูกเกด หมู และพีช ได้กล่าวทักทายกันและรอผู้เข้าแข่งขันมาถ่ายภาพเพื่อตัดสิน ในระหว่างที่ผู้เข้าแข่งขันเข้ามาถ่ายภาพ เมนเทอร์ทั้งสามก็ได้มีการซักถามกับผู้เข้าแข่งขันต่าง ๆ นานา. ในขณะที่ อติล่า กำลังแนะนำตัว ลูกเกดก็ได้ให้ อติล่า หยุดพูดก่อน และมีความเห็นว่าตอนที่พูดดูแล้วไม่มีเสน่ห์ น่าเบื่อ หลังจากนั้นก็ได้ให้พูดต่อเป็นภาษาไทย. แบงก์ ถูก ลูกเกด บอกให้ถอดเสื้อโชว์ท่อนบน. ฟิลลิปส์, ลูกเกด ได้เห็นแล้วถึงกับออกปากขอจองตัวไว้ล่วงหน้า. จอห์น ได้ถอดเสื้อโชว์ท่อนบนเพราะ ลูกเกด บอกว่า หมู อยากดู. พั้ง, หมู ไม่ให้ผ่าน แต่ลูกเกด และพีช ได้ให้โอกาสเข้ารอบต่อไป. เติร์ท, ลูกเกด และพีช เกิดความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น. หมู ได้ถาม มิกกี้ ว่าทำอะไรอย่างอื่นบ้าง มิกกี้ ได้บอกว่าได้เขียนคอลัมภ์เกี่ยวกับสุขภาพและเป็นวิทยากรด้วยพร้อมกับถอดเสื้อโชว์ท่อนบนให้เมนเทอร์ทั้งสามคนได้ดู. รูเบน ได้รวบผมโชว์หน้าตามที่ ลูกเกด ขอดู. กันน์ เคยทำงานเป็นนายแบบที่ลอสแอนเจลิส ปัจจุบันทำงานที่เกาหลีใต้. กุน ได้เข้ามาให้ หมู ดูหน้าแบบใกล้ ๆ ตามที่ ลูกเกด ได้บอก. ซันนี่ บอกว่ามี ลูกเกด เป็นแรงบันดาลใจให้เรียนภาษาไทยและอยากจะเป็น เดอะเฟซเมน คนแรก แต่ ลูกเกด กังวลถึงความมั่นใจที่ล้นเกินไปของเขา ซึ่ง หมู และพีช ได้ให้โอกาสเข้ารอบต่อไป. ลูกเกด ถาม นัท ว่าเป็นชายแท้หรือเป็นเกย์ นัท ได้บอกว่าเขาเป็นเกย์และเคยเป็นแดนเซอร์ให้ มาช่า ลูกเกด ได้บอกให้ นัท เต้นให้ดู. ธาม เป็นคนที่ พีช ถึงกับเอ่ยปากว่าตัวใหญ่เกินอายุ. แจ็ค บอกว่าพูดได้สามภาษาคือภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และภาษาไทยที่พูดได้นิดหน่อย. กันย์ ถูก หมู ติว่า หมดความสนใจไปทันทีเมื่อขยับตัวทั้ง ๆ ที่มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง เมื่อ กันย์ ได้แนะนำตัวด้วยอาการตื่นเต้น หมู ได้แนะนำว่าความตื่นเต้นทำลายทุกอย่างและควรตั้งสติให้มากกว่านี้. ดุ่ย, ลูกเกดมองว่าลุคของเขาเหมือนนักข่าว. พีเค, หมู ได้ให้ความเห็นว่าน่าจะเข้ากันได้กับ พีช. นิคกี้ ต้องคิดนานกับคำถามที่ หมู ถามว่าจะยอมตัดผมสั้นหรือเปล่าถ้ามีคนบอกให้ตัด. พีช ได้ถาม ทอม ว่า ถ้าเลือกได้ระหว่างนักแสดงกับนักบินจะเลือกอะไร ทอม ได้ตอบว่าเลือกที่จะเป็นนักบิน. ต้า เป็นคนที่ หมู และลูกเกด รู้สึกว่า เมื่อมองดูเขาแล้วมีแต่ความว่างเปล่า. แมน มีความคล้าย ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ทั้งหน้าตาและเสียง. เอ็ม เคยถ่ายแบบแนวเซ็กซี่ ลูกเกด ได้ถามว่ามีเรื่องอะไรที่เป็นกระแสทางสังคมออนไลน์ เอ็ม บอกว่ามีเรื่องชกต่อยกันเพราะความเข้าใจผิด. จอช, เมนเทอร์ทุกคนเห็นตรงกันว่าไปต่อได้ยากเนื่องจากรูปร่างที่ดูใหญ่โต. ในรอบนี้มีผู้ผ่านเข้ารอบต่อไป 28 คน โดยที่ เบส มาร์คัส เบน แพท โอบี ปริญ เทน ภพ เจสัน ทอม ต้า และ จอช ไม่ผ่านรอบนี้.

ในรอบที่สอง เป็นการเดินแบบโดยปิดบังใบหน้าของผู้เข้าแข่งขัน. ลูกเกด ได้เอ่ยปากว่า เสื้อที่ผู้เข้าแข่งขันใส่เดินแบบในช่วงนี้ไม่ได้โชว์สัดส่วนช่วงบนและทำให้ไม่น่าสนใจ เลยให้มีถอดเสื้อโชว์ช่วงบน. ซันนี่ เดินแบบไม่เป็นธรรมชาติและดูกระแทกกระทั้นแต่ก็ได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป. รูเบน เป็นที่ชื่นชอบของ ลูกเกด คนเดียว ในขณะที่ หมู และ พีช ไม่ประทับใจ. ริโก้ เดินแบบส่ายหัวและตัวเหมือนมาสคอตจนไม่ประทับใจ ลูกเกด และ หมู ทั้ง ๆ ที่ พีช ชอบมาก. กันย์ เผลอพยักหน้าตอบรับเมื่อ ลูกเกด และ หมู ถามว่าใช่หรือเขาเปล่าทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ถอดหมวกออก. ดุ่ย ได้เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยเมื่อแว่นตาได้หนีบผมระหว่างถอดหมวกออก. เติร์ท ได้เดินแบบในสไตล์ผู้ชายและผู้หญิงไปพร้อมกัน. ฟิลลิปส์ ถูก ลูกเกด แซวเล็กน้อยเรื่องการชูสองนิ้วเมื่อได้ผ่านเข้ารอบต่อไป. ในรอบนี้มีผู้ผ่านเข้ารอบต่อไป 25 คน โดยที่ รูเบน ริโก้ และพั้ง ไม่ผ่านรอบนี้.

ในรอบที่สาม เป็นการแต่งตัวตามบุคลิกของตนเองเพื่อให้เมนเทอร์เลือกเข้าทีม. บาส ถูกเลือกเป็นคนแรกโดย พีช ซึ่ง หมู บอกว่าไม่มีอะไรโดดเด่นและอาจไปต่อได้ยาก. แซม ที่มี ลูกเกด และ หมู ยกโมเดลลิ่งบุ๊ค ลูกเกดได้ถามว่า ได้ดู เดอะเฟซไทยแลนด์ ซีซัน 3 หรือเปล่าพร้อมพูดชวนให้มาอยู่ร่วมทีม แต่ แซม ได้ตัดสินใจเลือกเข้าทีมหมู. ซันนี่ ต้องตกรอบไปพร้อมกับความเสียดายของ ลูกเกด ที่คิดว่าเมนเทอร์อีกสองคนที่เหลือจะเลือกเขา. นิคกี้ และ แจ็ค เป็นผู้เข้าแข่งขันที่เมนเทอร์ทั้งสามคนยกโมเดลลิ่งบุ๊คพร้อมกัน ซึ่ง นิคกี้ และ แจ็ค ได้เลือกเข้าทีมลูกเกด. จอห์น เจมส์ ปาแปง ซันนี่ นัท วิน และเอ็ม ต้องกลับบ้านไปเพราะไม่ผ่านรอบนี้

การเลือกเข้าทีม
ลำดับผู้เข้าแข่งขันอายุการเลือกของเมนเทอร์และผู้เข้าแข่งขัน
หมูพีชลูกเกด
1บาส21
2กันย์19
3จอห์น*22
4อติล่า25
5โจเซฟ23
6เจมส์22
7แซม23
8ฟิลลิปส์22
9กุน26
10แบงค์26
11แมน26
12ปาแปง24
13กันน์22
14นิคกี้21
15ซันนี่*29
16ดุ่ย22
17ธาม16
18แจ็ค27
19พีเค20
20นัท*23ลูกทีมเต็ม
21วิน26
22มิกกี้26
23มอส22
24เอ็ม*28ลูกทีมเต็ม
25เติร์ท19
  1. ^ * จอห์น ซันนี่ นัท และ เอ็ม ไม่ได้ผ่านรอบคัดเลือก 18 คนสุดท้าย แต่ได้รับโอกาสให้ฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ร่วมกับผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับการเลือกอีก 18 คนในบ้าน อาร์ทีมิส อีลิท
เมนเทอร์เลือกลูกทีม     ผู้เข้าแข่งขันตกรอบเพราะเมนเทอร์ไม่เลือก     เมนเทอร์ที่ผู้เข้าแข่งขันเข้าร่วมทีมโดยอัตโนมัติ     เมนเทอร์ที่ผู้เข้าแข่งขันตัดสินใจเลือกเข้าทีม
  • ทีมลูกเกด : กันย์, ฟิลลิปส์, กุน, นิคกี้, แจ็ค, มอส
  • ทีมหมู : อติล่า, แซม, แบงค์, ธาม, มิกกี้, เติร์ท
  • ทีมพีช : บาส, โจเซฟ, แมน, กันน์, ดุ่ย, พีเค

ตอนที่ 2 : Sensitive Side of Men

ออกอากาศ 5 สิงหาคม 2560

ช่วงมาสเตอร์คลาส เมนเทอร์ลูกเกด ได้มาสอนเกี่ยวกับการถ่ายแบบคู่ โดยมี ชิน ยู-จ็อง และ อองตวน ปินโต เป็นแขกรับเชิญพิเศษ ยู-จ็อง ได้บอกถึงแนวคิดในการถ่ายภาพในครั้งนี้ และ อองตวน ได้สอนการโพสต์ท่าชกมวย บททดสอบคือ การถ่ายแบบคู่ในโจทย์ "ปลุกความเป็นแชมป์เปี้ยนในตัวคุณ" โดยแต่ละคนได้จับคู่กัน ดังนี้

คู่
นิคกี้อติล่า
แซมฟิลลิปส์
กันน์โจเซฟ
ดุ่ยพีเค
มอสเติร์ท
กุนมิกกี้
บาสกันย์
ธามแจ็ค
แบงค์แมน

โดยแต่ละคู่จะมีเวลาถ่ายภาพ 1 นาที เมื่อถึงเวลา แต่ละคนตีโจทย์ผิดเป็นส่วนใหญ่และไม่ได้ฟังที่ ลูกเกด แนะนำ ในขณะที่ แบงค์ กับ แมน ทำได้ตรงโจทย์มากที่สุดซึ่งทำให้ ยู-จ็อง เลือกภาพของทั้งคู่เป็นภาพที่ดีที่สุด และ แบงค์ เป็นผู้ที่ชนะในช่วงนี้ โดยรูปของผู้ชนะจะได้ถูกโปรโมทที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Head and Shoulders และจะได้ผลิตภัณฑ์ ไปใช้ 1 ปี

  • ผู้ที่ชนะมาสเตอร์คลาสประจำสัปดาห์: แบงค์ อนุสิทธิ
  • แขกรับเชิญพิเศษ: ชิน ยู-จ็อง และ อองตวน ปินโต

ช่วงแคมเปญ ในสัปดาห์นี้คือ การถ่ายภาพร่วมกับเด็ก ด้วยแนวคิด "Sensitive Side of Men" เพื่อนำเสนอให้กับผลิตภัณฑ์ L'Oreal Men Expert Hydra Sensitive ซึ่งได้ เปิ้น วันเพ็ญ แก้วนาเส็ง เป็นแขกรับเชิญ และ เปิ้ล วสันต์ ผึ่งประเสริฐ เป็นช่างถ่ายภาพในช่วงนี้ โดยแต่ละทีมมีเวลา 20 นาที และเมนเทอร์จะเขามาช่วยได้เมื่อเวลาผ่านไป 5 นาที แบงค์ ผู้ที่ชนะจากช่วงมาสเตอร์คลาสได้เลือกให้ทีมลูกเกดเริ่มเป็นทีมแรก ตามด้วยทีมพีช และทีมหมู โดย แบงค์ ได้เลือกวัยของเด็กในการเข้าฉากให้แต่ละทีม ดังนี้

ทีมวัยของเด็ก
ลูกเกดเด็กวัยหัดเดิน
พีชเด็กโตที่สื่อสารกันได้
หมูเด็กวัยทารก

ในระหว่างที่ผู้เข้าแข่งขันไปเตรียมตัวเพื่อเริ่มแคมเปญ เมนเทอร์ของแต่ละทีมก็ได้ไปถามถึงแนวคิดกับแขกรับเชิญและช่างถ่ายภาพ หลังจากนั้นก็ได้ไปหาลูกทีมเพื่อกำหนดท่าทางในการถ่ายภาพ

เมื่อถึงเวลาถ่ายภาพ ทีมลูกเกดที่เริ่มเป็นทีมแรกได้เด็กเข้าฉากเพียงแค่คนเดียวเนื่องจากเด็กอีกคนร้องไห้ไม่หยุด จนเป็นที่กังวลใจทุกคนที่อยู่ในแคมเปญ กุน ได้ถ่ายภาพเป็นคนแรกและ เปิ้ล ได้ให้ ฟิลลิปส์ เข้าฉากด้วย หลังจากผ่านไป 5 นาที ลูกเกดได้เข้ามาช่วยลูกทีมและต้องคอยเล่นหยอกล้อกับเด็กในฉากไม่ให้ร้องไห้ ฟิลลิปส์ และมอส ทำได้ดีที่สุด ในขณะที่ กันย์ และนิคกี้ ประสบปัญหาเมื่อเด็กเริ่มร้องไห้ตอนเข้าฉาก โดยเฉพาะ กันย์ ที่ถ่ายภาพได้แค่สองภาพ จนลูกเกด บอกว่าถ้าเป็นไปได้อยากได้โจทย์ที่ถ่ายภาพกับสัตว์ต่าง ๆ เหมือนซีซัน 2 ของ เดอะเฟซไทยแลนด์ ทีมพีชเริ่มเป็นทีมที่สอง พีช ได้ให้ ดุ่ย เข้าถ่ายภาพเป็นคนแรกเพราะรู้ว่าเขาเคยทำงานที่เกี่ยวกับเด็กมาก่อนจึงคิดว่าเขาน่าจะช่วยคลายความตึงเครียดให้เด็กได้ เมื่อผ่านไป 5 นาที พีชได้เข้ามาช่วยลูกทีมและคอยบอกโดยที่ พีช คอยหลบอยู่หลังโซฟาในฉากตอนที่ พีเค เข้าฉาก บาส ได้รับคำชมจาก พีช และลูกเกดว่า ทำได้ดี โดยเฉพาะ ลูกเกด ได้บอกว่า บาส จะได้ภาพที่ดีกว่านี้ถ้ามีเวลามากพอ ทีมหมูที่ได้ถ่ายภาพเป็นทีมสุดท้าย ได้ประสบปัญหาเช่นเดียวกับทีมลูกเกด คือ เด็กร้องไห้ไม่หยุด เติร์ท ได้ถ่ายภาพเป็นคนแรกและ หมู ชมว่า ทำได้ดีแม้ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อ หมู ได้เข้าช่วยลูกทีม หมู ต้องบอกให้ถ่ายภาพต่อทั้ง ๆ ที่เด็กยังร้องไห้ หมู ได้ชม ธาม ว่ารับมือกับเหตุการณ์ได้แม้จะอายุยังน้อย อติล่า ได้ภาพดีเกือบทุกภาพเพราะกล้องรับกับหน้าของเขา มิกกี้ ที่ถ่ายเป็นคนสุดท้าย หมู ได้ให้เขาอุ้มเด็กเข้าฉากพร้อมกันทั้งสองคน

เมื่อการแข่งขันได้สิ้นสุดลง ทีมลูกเกด ได้คำชมจาก เปิ้น ว่าส่วนใหญ่ทำได้ดี โดยเฉพาะ ฟิลลิปส์ และนิคกี้ แต่ ฟิลลิปส์ ตอบโจทย์มากที่สุดเพราะเข้ากันกับเด็กในฉากและเอาตัวผลิตภัณฑ์มาเล่นด้วย ทีมพีช เปิ้น ชอบภาพของ บาส โจเซฟ และแมน เปิ้ล ได้บอกว่า ภาพทุกภาพแสดงถึงความเป็นผู้ชายในเมือง ทีมหมู ได้รับคำชมจาก เปิ้น ว่า รับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสื่ออารมณ์ได้ดีแม้เด็กจะร้องไห้ไม่หยุด เปิ้ล ชอบตรงที่ หมู ได้เลือกภาพเป็นรูปแบบเดียวกันทั้งหมดและสื่อถึงความเป็นแฟชั่น และผลการตัดสินได้ให้ทีมลูกเกดชนะในแคมเปญครั้งนี้ โดยทีมที่ชนะจะได้รับผลิตภัณฑ์ L'Oreal Men Expert ไปใช้อีกด้วย

  • ช่างถ่ายภาพ: วสันต์ ผึ่งประเสริฐ (เปิ้ล)
  • แขกรับเชิญพิเศษ: วันเพ็ญ แก้วนาเส็ง (เปิ้น)

เมื่อถึงช่วงเวลาคัดออก ลูกเกด ได้ถามลูกทีมว่าใครสมควรที่จะเข้าห้องคัดออก เมื่อ นิคกี้ เลือกที่จะไป ลูกเกด ได้บอกว่าเธอแกล้งอำทุกคนเพราะทีมของเธอชนะ สำหรับ พีช ได้เลือก บาส ไปพบ ลูกเกด ส่วน หมู ได้ส่ง เติร์ท ไป ทั้ง ๆ ที่บอกว่า ธาม คือคนที่อ่อนที่สุด เมื่อ บาส และ เติร์ท ไปพบลูกเกดที่ห้องคัดออก ลูกเกด ได้บอกว่า โดยปกติถ้าเป็นเดอเฟซที่ผ่าน ๆ มา เธอจะชอบมากเมื่อชนะแคมเปญและได้นั่งอยู่ในห้องคัดออกเพื่อคัดลูกทีมของทีมอื่น แต่เมื่อเป็นเดอะเฟซเมน ลูกเกด กลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นและยังอยากเห็นทั้งคู่ยังอยู่ต่อในรายการ หลังจากนั้น ลูกเกด ได้ถาม เติร์ท ถึงเหตุผลที่ หมู ได้ส่งเขาเข้ามา เติร์ท ได้บอกว่า หมูส่งให้มาสู้เพื่อให้ลูกเกดเห็นว่าเขาควรอยู่ต่อเพราะโอกาสไม่ได้มีมากนักสำหรับคนที่เป็นเกย์แบบเขา และเดอะเฟซเมนก็ได้ให้โอกาสเขาแล้ว และยังต้องการโอกาสเพื่อให้ได้ทำในสิ่งที่อยากเป็น ลูกเกด ได้ถามต่อถามว่าอยากเป็นอะไร เติร์ท นิ่งไปสักพักและได้ตอบว่าเป็นตัวของตัวเองให้ดีที่สุด ต่อมา ลูกเกด ได้ถาม บาส ว่า พีช ส่งเขามาทำไม บาส บอกว่า เขาทำผลงานได้ดีที่สุด และ พีช เชื่อในตัวเขาว่า ลูกเกด จะยอมให้โอกาสเขาได้อยู่ต่อ เติร์ท บอกว่า ที่ หมู ส่งมาเพราะเขาทำผลงานได้ดีที่สุดเช่นกันแม้เด็กจะร้องไห้อยู่ก็ตามแต่ก็ตั้งสติได้ ลูกเกด จึงบอกว่า เชื่อในความสามารถของทั้งคู่ แต่เมนเทอร์ก็ไม่ควรส่งคนที่ทำได้ดีที่สุดเข้ามาเพราะเธอตั้งใจจะตัดคนที่อ่อนที่สุด อย่างไรก็ตาม ลูกเกด ก็ต้องตัดสินด้วยวัยของเด็กที่เข้าฉากให้แต่ละทีมในแคมเปญว่าใครจะถูกคัดออกจากความง่ายและความยากในการควบคุมเด็ก ในที่สุด ลูกเกด ได้ให้โอกาส เติร์ท อีกครั้ง และได้เลือก บาส ให้ออกจากเดอะเฟซเมนเป็นคนแรก โดยได้ไปบอกเมนเทอร์ทั้งสองคนว่าอย่าส่งคนที่ทำได้ดีที่สุดไปหาเธอ และได้พูดว่า พีช ทำพลาดมากที่ส่ง บาส เข้าไปพบเธอ

  • ทีมที่ชนะแคมเปญ: ทีมลูกเกด
  • ผู้ที่ถูกส่งเข้ามาในห้องคัดออก: บาส ภาณุพงศ์ และ เติร์ท ธนาภพ
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: บาส ภาณุพงศ์

ตอนที่ 3 : Walk Your Pets

ออกอากาศ 12 สิงหาคม 2560

ช่วงมาสเตอร์คลาส เมนเทอร์หมู ได้มาสอนเกี่ยวกับการเดินแบบแคทวอล์ค "วันโอวัน" ซึ่งต้องใช้การฟังในการประมวลผลเป็นความคิดว่าโชว์ที่ได้ต้องเดินแบบสไตล์ใดซึ่งแต่ละสไตล์จะมีบุคลิกที่ต่างกันโดยต้องมีการสื่อความรู้สึกทางสายตาไปพร้อมกัน และได้บอกสิ่งที่ไม่ควรทำในการเดินแบบ ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ ได้มาแบ่งปันประสบการณ์ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการแฟชั่น หลังจากนั้น ไอซ์ซึ ได้เดินแบบให้ดูเป็นตัวอย่างและให้ ธาม ออกมาฝึกเดิน โดยที่ หมู และ และ ไอซ์ซึ ได้บอกถึงข้อบกพร่องและได้ให้คำแนะนำ ต่อมา หมู ได้ให้ เติร์ท เดินแบบในสไตล์ผู้ชายและสไตล์ผู้หญิง ซึ่ง ไอซ์ซึ ได้บอกว่าเป็นการเดินแบบในไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ ตามด้วย ดุ่ย ซึ่ง หมู ได้บอกว่าเดินแบบเครียดมากเกินไปและให้เป็นธรรมชาติมากกว่านี้ ดุ่ย ได้บอกว่าเขาหลังค่อม ไอซ์ซึ จึงบอกวิธีแก้ไขด้วยการแอ่นก้นขึ้นมานิดหน่อยเพื่อให้หน้าอกอยู่ในระดับปกติ

บีท วิษณี เทพเจริญ ที่เป็นแขกรับเชิญในช่วงนี้ ได้ให้บททดสอบคือ การออกแบบการเดินแบบให้เหมาะสมกับบุคลิกของแต่ละคนและสื่ออารมณ์ให้เข้ากับโจทย์ที่ได้รับ ซึ่งแต่ละคนได้จับฉลากและได้โจทย์มา ดังนี้

ผู้เข้าแข่งขันสไตล์
แมน, ดุ่ย, กุน, แจ็ค, เติร์ทแฟชั่นชั้นสูง
มิกกี้, ฟิลลิปส์, แบงค์, แซม, อติล่าลำลอง
มอส, ธาม, โจเซฟ, พีเค, กันย์, กันน์, นิคกี้เป็นทางการ

เมื่อถึงเวลาที่แต่ละคนได้เดิน หมู ได้พูดว่า แจ็ค เดินได้ไม่แย่แต่ไม่น่าจดจำ คนที่เดินต่อ ๆ กันมาเดินเร็วมากขึ้นจน บีท แสดงความคิดเห็นไม่ทัน ธาม เป็นคนที่ หมู ลงความเห็นว่าเดินแบบได้อ่อนที่สุด กันย์ ได้เอามือไปจับปกเสื้อสูทซึ่งเป็นสิ่งที่ หมู เคยบอกไปว่าไม่ควรทำ กันน์ เดินแบบได้อึดอัด หลังจากนั้น บีท ก็ได้เลือกผู้ที่ทำได้ดีในแต่ละโจทย์ซึ่งปรากฏชื่อเป็นตัวหนาในตารางโจทย์ ซึ่งผู้ที่ชนะในช่วงนี้คือ นิคกี้ รางวัลที่เขาได้รับคือ บัตรกำนัลเงินสดเพื่อใช้บริการใน ดีเอ็นเอ คลินิก มูลค่า 200,000 บาท นอกจากนี้ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือจะได้รับการดูแลจากคลินิก รวมมูลค่ามากกว่า 2,000,000 บาท

ช่วงแคมเปญ ในสัปดาห์นี้คือ การเดินแฟชั่นบนเวทีที่ไร้ขอบเขต ด้วยแนวคิด "Walk Your Pets" ร่วมกับสัตว์ต่าง ๆ คริส หอวัง เป็นแขกรับเชิญคนแรกในช่วงนี้ โดย คริส ได้บอกว่าเมนเทอร์ของแต่ละทีมจะต้องออกแบบการเดินแบบโชว์ให้น่าสนใจมากที่สุด ซึ่งสัตว์ที่เข้าฉากจะเป็นอุปสรรคการโชว์เดินแบบในครั้งนี้ นิคกี้ ผู้ที่ชนะจากช่วงมาสเตอร์คลาสได้เลือกให้ทีมพีชเริ่มเป็นทีมแรก ตามด้วยทีมลูกเกด และทีมหมู โดยลำดับการเลือกทีมมีผลต่อการได้สัตว์ประกอบการเดินแบบโชว์ ดังนี้

ทีมสัตว์ที่เข้าฉาก
พีชสุนัข
ลูกเกดนก
หมูม้า

ในระหว่างที่ผู้เข้าแข่งขันไปเตรียมตัวเพื่อเริ่มแคมเปญ เมนเทอร์ของแต่ละทีมก็ได้ไปดูสัตว์ที่จะต้องเข้าฉากให้กับลูกทีมและได้ถามถึงเทคนิคการควบคุมสัตว์กับผู้ดูแลสัตว์แต่ละชนิด หลังจากนั้นก็ได้ไปหาลูกทีมเพื่อกำหนดท่าทางในการเดินแบบทั้ง ๆ ที่ลูกทีมยังไม่เห็นสัตว์ที่จะมาเข้าฉากร่วม โดยลูกทีมของทีมพีชมีสุนัขร่วมเดินคนละตัว ทีมหมูได้ให้ อติล่า เป็นคนจูงม้าและมี แบงค์ เดินอยู่อีกข้าง ทีมลูกเกดได้ให้ มอส แจ็ค และ กุน เดินแบบโดยมีนกเกาะอยู่ที่แขน

เมื่อถึงเวลาโชว์ ตือ สมบัษร ถิระสาโรช ได้เป็นกรรมการตัดสินร่วมกับ คริส ทีมพีชเริ่มเป็นทีมแรก แมน และ พีเค ทำได้เป็นที่น่าประทับใจของกรรมการ โจเซฟ แม้ ตือ จะประทับใจ แต่ คริส บอกว่าเหมือนโฆษณาแชมพูสุนัข กันน์ เดินแบบอย่างอึดอัดเนื่องจากชุดที่ใส่ ดุ่ย กลับกลายเป็นเดินลากสุนัขแทนที่จะจูงจนกลายเป็นจุดอ่อนในทีม และโชว์กลับดูแย่ลงเมื่อเมื่อลูกทีมของพีชเล่นกับสุนัขตอนใกล้จบโชว์ ทีมลูกเกด เริ่มเป็นทีมที่สอง ในช่วงแรก ตือ บอกว่าเหมือนมาดูการฝึกทหาร ในระหว่างที่ทีมของลูกเกดเดินกลับไปทั้งหมด หมู ได้บอกกับ ลูกเกด ว่า ควรจะมีลูกทีมอยู่ในโชว์ไว้บ้างเพื่อไม่ให้โชว์ดูว่างนานเป็นนาที และเมื่อโชว์ดำเนินต่ออีกครั้ง ตือ ได้บอกไปก่อนว่า โชว์ช่วงแรกน่าดูกว่า ในขณะที่ คริส ชื่นชอบช่วงหลัง กุน ที่กำลังเดินออกมาได้ทำนกตกจากแขน ซึ่ง กุน ตั้งสติเอานกเกาะแขนตามเดิมและเดินต่อจนเป็นที่ชื่มชมของแขกรับเชิญ นิคกี้ ได้รับคำชมจาก ตือ ว่า แม้ไม่มีนกร่วมฉากก็สามารถนำเสนอชุดที่กำลังใส่อยู่ได้ มอส แม้จะทำให้นกอินทรีกางปีกเมื่ออยู่ต่อหน้ากรรมการจน คริส ประทับ ใจ แต่ ตือ กลับมองว่าเหมือนคนเลี้ยงนก ทีมหมูที่เดินเป็นทีมสุดท้าย ม้าได้พยศก่อนเข้าโชว์ เติร์ท และ อติล่า ทำได้ดีที่สุด ในขณะที่ แบงค์ กลายเป็นจุดอ่อนในทีมจากการแสดงสีหน้าที่ดูกังวลเมื่อเดินข้างม้า เมื่อลูกทีมของหมูหยุดตรงหน้ากรรมการ ม้าในฉากได้แสดงอาการตระหนกเนื่องจากแสงสะท้อนของพื้นเหล็กที่อยู่ตรงหน้า อย่างไรก็ตาม ตือ บอกว่าชอบการออกแบบโชว์ของ หมู มากที่สุด

เมื่อการแข่งขันได้สิ้นสุดลง ทีมพีช ได้คำวิจารณ์จาก ตือ ว่า ไม่ประทับใจในการโชว์ เช่นเดียวกับ คริส ที่บอกว่า ตอนใกล้จบโชว์เหมือนโฆษณาแชมพูสุนัขเพราะนอกจาก โจเซฟ เกือบทุกคนเล่นกับสุนัขเกือบหมด ทีมลูกเกด ตือ บอกว่าช่วงแรกเหมือนดูการฝึกทหาร ช่วงหลังได้ชม กุน ที่ตั้งสติระหว่างโชว์ได้และเป็นคนที่ทำได้ดีที่สุดในกลุ่ม คริส ได้ชม มอสที่ทำให้นกอินทรีกางปีกในโชว์ได้ ทีมหมู ได้รับคำชมจาก ตือ ว่าออกแบบการโชว์ได้น่าดูมาก แต่ก็บอกว่า แบงค์ เป็นจุดด้อยที่ชัดเจนในทีม เมื่อดูองค์ประกอบโดยรวมของแต่ละทีมแล้ว ทีมหมูจึงเป็นทีมที่ชนะแคมเปญครั้งนี้

  • แขกรับเชิญพิเศษ: สมบัษร ถิระสาโรช (ตือ) และ คริส หอวัง

เมื่อถึงช่วงเวลาคัดออก ลูกเกด ไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะส่งใครเข้าไปพบ หมู ที่ห้องคัดออก เนื่องจากลูกทีมทำได้ดีทุกคน แต่แล้ว ลูกเกดได้ส่ง กุน เข้าไปเพราะมั่นใจว่า กุน จะมีสติในการพูดให้รอดจากการถูกคัดออกได้ ส่วน พีช ได้ส่ง ดุ่ย ไปเพราะ ดุ่ย ทำได้แย่ที่สุดในทีม เมื่อ กุน และ ดุ่ย ไปพบ หมู ที่ห้องคัดออก หมู ได้ถามทั้งคู่ถึงเหตุผลที่เมนเทอร์ของแต่ละทีมได้ส่งมา ดุ่ย ได้บอกว่า เวลาเขาเดินในโชว์จะดูเกร็งและรู้ตัวดีว่าทำได้แย่ที่สุดในทีม กุน ได้บอกว่า ลูกเกดตัดสินใจไม่ได้ว่าจะส่งใครเข้ามาเลยส่งเขาเข้ามาเพื่อปกป้องทุกคนในทีมลูกเกด หลังจากนั้น หมู ได้บอกว่า ลูกเกด อยู่ในรายการนี้มานานน่าจะรู้ดีว่าการที่ ลูกเกด ส่ง กุน เข้ามาจะทำให้ ทีมหมู ชนะได้ง่ายขึ้น เพราะเขาอาจตัด กุน ออก และเก็บ ดุ่ย เอาไว้ อย่างไรก็ตาม หมู ก็ได้เลือก ดุ่ย ให้ออกจากเดอะเฟซเมนเป็นคนที่สอง โดยได้บอกกับ พีช ว่า ได้สุนัขเข้าฉากซึ่งง่ายที่สุดแต่ทำออกมาได้ไม่ดีจึงได้คัด ดุ่ย ออกไป และได้บอกกับ ลูกเกด ว่า ถ้าไม่พร้อมที่จะเสียลูกทีมคนนั้นไปก็อย่าส่งคนนั้นมาพบเพราะเขาอาจจะถูกตัดออก

  • ทีมที่ชนะแคมเปญ: ทีมหมู
  • ผู้ที่ถูกส่งเข้ามาในห้องคัดออก: ดุ่ย ฐานทรัพย์ และ กุน กิตติคุณ
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: ดุ่ย ฐานทรัพย์

ตอนที่ 4 : Confident in Love

ออกอากาศ 19 สิงหาคม 2560

ช่วงมาสเตอร์คลาส เมนเทอร์ลูกเกด ได้มาสอนเกี่ยวกับการถ่ายแบบโดยการสร้างเรื่องราวออกมาจากความคิดซึ่งจะสื่อความรู้สึกออกมาทางสายตา หลังจากนั้นได้ให้ แซม ออกมาแสดงโดยสวมบทบาทเป็นเด็กอายุสิบสามที่เพิ่งออกนัดหมายกับหญิงสาวเป็นครั้งแรก ต่อมา ได้ให้ ธาม แสดงบทบาทเป็นพ่อหม้ายที่มีแฟนเป็นเด็กซึ่งกำลังขอแฟนแต่งงาน เปิ้น วันเพ็ญ แก้วนาเส็ง ที่เป็นแขกรับเชิญในตอนนี้ได้ให้บททดสอบคือ การถ่ายแบบในโจทย์ "Opposite Sex" หรือการสื่อเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามโดยการสื่อความรู้สึกรักแรกพบกับ เกรซ ณัฐธยาน์ บุญชมไพศาล ผู้ชนะจาก เดอะเฟซไทยแลนด์ ซีซัน 3 ที่เป็นแขกรับเชิญในการถ่ายภาพในช่วงนี้ โดยได้จำลองเหตุการณ์ว่ากำลังซื้อของในร้านและได้เจอผู้หญิงที่ทำให้รู้สึกตกหลุมรักในครั้งแรก โดยมีโจทย์ที่กำหนดมา คือ

โจทย์การตีความหมาย
Cleverหนุ่มฉลาดคิด ฉลาดวางตัว
Charismaหนุ่มมีเสน่ห์ ดูโดดเด่น
Confidenceหนุ่มที่มีความมั่นใจในทุกสถานการณ์

โดยแต่ละคนจะมีเวลาถ่ายภาพ 1 นาที เมื่อถึงเวลา ลูกเกด ก็ได้พูดและวิจารณ์การถ่ายแบบของแต่ละคน พีเค และ โจเซฟ ไม่ได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดีเท่าที่ควร ในขณะที่ เติร์ท และธาม บุคลิกไม่ตอบโจทย์ กุน และ อติล่า ยังทำได้ไม่ดีเท่าอย่างที่ควรจะเป็น หลังจากนั้น เปิ้น ก็ได้เลือกภาพของ แมน มิกกี้ อติล่า และ มอส เป็นภาพที่ดีที่สุด ซึ่ง มิกกี้ เป็นผู้ที่ชนะในช่วงนี้ โดยจะได้รับผลิตภัณฑ์ L'Oreal Men Expert เป็นรางวัล

ช่วงแคมเปญ ในสัปดาห์นี้คือ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ Head and Shoulders ในการถ่ายมิวสิควิดีโอ โดยได้ สิริกาญจน์ อัศวสุดสาคร เป็นแขกรับเชิญที่บอกถึงแนวคิดในการถ่ายมิวสิควิดีโอในครั้งนี้ และ สมาชิกวง พอส ได้มาบอกถึงเรื่องราวของเพลง "รักจริงจัง" ที่จะใช้ประกอบมิวสิควิดีโอในแคมเปญ แต่ละทีมจะมีเวลา 15 นาทีในการถ่ายทำ โดยแต่ละคนในทีมจะมีเวลา 1 นาทีในมิวสิควิดีโอ มิกกี้ ผู้ที่ชนะจากช่วงมาสเตอร์คลาสได้เลือกให้ทีมลูกเกดเริ่มเป็นทีมแรก ตามด้วยทีมพีช และทีมหมู หลังจากนั้น เมนเทอร์ของแต่ละทีมก็ได้ไปถามถึงแนวคิดกับแขกรับเชิญ และได้มาบอกกับลูกทีมของตัวเองพร้อมกับวางแผนในการเข้าฉาก สำหรับทีมหมู ไม่ได้ให้ เติร์ท กับ ธาม ร่วมแคมเปญนี้เนื่องจากคิดว่าบุคลิกของทั้งสองไม่ตอบโจทย์ ซึ่งสร้างความสบายใจให้กับ เติร์ท ในขณะที่ ธาม รู้สึกน้อยใจที่ไม่ได้ร่วมแข่งขัน

เมื่อถึงเวลาถ่ายทำ ทีมลูกเกดเริ่มเป็นทีมแรก แต่หลังจากที่ ฟิลลิปส์ เข้าฉากไปได้ไม่นาน ลูกเกด ก็ได้โวยวายเนื่องจากเพลงที่ใช้เปิดมีแค่ทำนองแต่ไม่มีเสียงของนักร้องซึ่งทำให้กะเวลาไม่ลงตัว จึงได้บอกให้เปิดเพลงที่มีเสียงร้องและเริ่มต้นถ่ายทำใหม่อีกครั้ง นิคกี้ ยังทำผลงานออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร กันย์ ได้บ่นเรื่องที่ไม่ได้เก็บกล่องแหวนเข้ากระเป๋ากางเกงขณะเข้าฉาก มอส ต้องเผชิญกับอุณหภูมิของน้ำที่ร้อนเกินไปเมื่อเข้าฉากล้างฟองแชมพูออกจากผม เมื่อเหลือเวลาอีก 3 นาที ลูกเกด ได้ให้ ฟิลลิปส์ เข้าฉากอีกครั้งเนื่องจากเชื่อว่าเขาตอบโจทย์ในแคมเปญนี้ได้ดีที่สุด ทีมพีชเริ่มเป็นทีมที่สอง โจเซฟ แสดงอาการตื่นเต้นมากกว่าที่จะตกหลุมรัก พีเค ลืมเก็บกล่องแหวนเข้ากระเป๋ากางเกงก่อนออกจากฉาก แมน และ กันน์ ทำได้ดีที่สุดในทีม ทีมหมูเข้าฉากเป็นทีมสุดท้าย อติล่า ถูก ลูกเกด และ พีช วิจารณ์ว่ามีแค่ความหล่อแต่มีความรู้สึกราบเรียบตลอดเวลาในตอนที่เข้าฉาก เนื่องจาก มิกกี้ เป็นคนที่ตาโต เวลาที่เลิกคิ้วและเหลือบตามองที่กระจกเวลาก้มหน้า ลูกเกด บอกว่าดูน่ากลัว ธาม ยังรู้สึกแย่ที่ไม่ได้เข้าฉาก ลูกเกด ได้พูดว่า ถ้าเธอเป็น หมู ในตอนนี้ เธอจะให้โอกาสลูกทีมทุกคน

เมื่อการแข่งขันได้สิ้นสุดลง สิริกาญจน์ ได้บอกว่า มี ฟิลลิปส์ และ แจ็ค จากทีมลูกเกดที่ดูโดดเด่น รวมไปถึง แมน จากทีมพีช และ อติล่า จากทีมหมู แต่ทีมหมู สิริกาญจน์ บอก หมู ว่าทุกคนในทีมถูกวางท่าในการเข้าฉากเหมือนกันหมด ผลการตัดสินได้เลือกให้ ฟิลลิปส์ เป็นคนที่ทำได้ดีที่สุด ซึ่งทำให้ทีมของลูกเกดชนะแคมเปญครั้งนี้ โดยที่ ฟิลลิปส์ จะได้เล่นมิวสิควีดีโอเพลง "รักจริงจัง" ให้กับ วง พอส อีกด้วย[5] แต่การตัดสินในครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับ พีช เป็นอย่างมากเนื่องจากเขาเขาคาดหวังในแคมเปญนี้ว่าทีมของเขาทำได้ดีที่สุด

เมื่อถึงช่วงเวลาคัดออก ลูกเกด ได้ขอคุยกับ นิคกี้ เป็นการส่วนตัวโดยให้ลูกทีมที่เหลือออกจากห้องไปก่อน และ ลูกเกด ได้พูดให้ นิคกี้ ปรับทัศนคติในการทำงานเนื่องจากการทำแคมเปญที่ผ่านมาเขาได้ทำทีท่าจะไม่ยอมมัดผมตามที่ ลูกเกด ได้บอก หลังจากนั้นได้ให้ลูกทีมที่รออยู่นอกห้องกลับเข้ามา หลังจากนั้น ลูกเกด ได้ร้องไห้ออกมา ทำให้ลูกทีมทุกคนรู้สึกไม่สบายใจ แต่แล้ว ลูกเกดได้บอกว่า เธอได้แกล้งอำทุกคนอีกครั้งและทีมของเธอชนะแคมเปญในสัปดาห์นี้ สำหรับ ทีมหมู ถึงจะบอกว่า มิกกี้ ทำได้แย่ที่สุดในทีม แต่ก็ได้ส่ง แบงค์ ไปพบลูกเกด ส่วน พีช ได้ส่ง กันน์ เข้าไป หลังจากทั้งคู่ไปที่ห้องคัดออกแล้ว ลูกเกด ได้ถามทั้งคู่ถึงเหตุผลที่เมนเทอร์ของแต่ละทีมได้ส่งมา กันน์ ได้บอกว่า พีช ได้บอกเขาว่า ลูกเกด ได้ชมเขาที่เขาทำได้ดีในแคมเปญและหวังว่า ลูกเกด จะให้โอกาสเขา กันน์ ได้พูดถึงการพยายามลดน้ำหนักของเขาเมื่อ ลูกเกด ได้ถามถึงจุดบกพร่องของเขา ส่วน แบงค์ ได้บอกว่า ถ้า หมู ส่งคนที่ไม่ได้ทำแคมเปญหรือส่งคนที่ทำได้แย่ที่สุดเข้ามาอาจโดนคัดออก หมู จึงส่งเขามาเพื่อให้ ลูกเกด ได้ให้โอกาสอีกครั้ง โดยได้เปรียบเทียบครั้งที่ ลูกเกด ได้ส่ง กุน ไปพบ หมู เมื่อครั้งก่อน หลังจากนั้น ทั้ง แบงค์ และ กันน์ ได้พูดถึงความพยายามของแต่ละคนที่ได้ทำเพื่อจะได้เป็นเดอะเฟซเมน หลังจากที่ทั้งคู่พูดจบ ลูกเกด ได้บอกว่าเห็นถึงความตั้งใจของทั้งคู่ และให้ แบงค์ กลับไปหา หมู โดย กันน์ ยังอยู่ในห้องคัดออก หลังจากนั้น ลูกเกด ได้บอกว่า เธอได้เลือกที่จะสละสิทธิ์ในการคัดออกในครั้งนี้ และได้พา กันน์ กลับมาในห้องรวม แต่ไม่เจอ พีช อยู่กับลูกทีม หมู ได้บอกว่า พีช ไม่ขอเข้ามาในห้องรวมเนื่องจากเขาไม่ยอมรับคำตัดสินในแคมเปญ ลูกเกด จึงได้พูดตำหนิถึงการกระทำของ พีช ว่าไม่เป็นมืออาชีพ ระหว่างที่ ลูกเกด พูดคุยกับ หมู อยู่นั้น พีช ก็ได้เข้ามาในฉากห้องรวม และได้มีการถกเถียงกันระหว่าง ลูกเกด และ พีช เมื่อ ลูกเกด เห็นการกระทำของ พีช ที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นเมนเทอร์ จึงเปลี่ยนใจที่จะตัด กันน์ ออกจากการแข่งขัน แต่ โจเซฟ ได้ขอร้องเอาไว้ ประกอบกับทีมงานได้บอกว่าการคัดผู้เข้าแข่งขันออกสามารถทำได้ในห้องคัดออกเท่านั้น ถ้าเลือกที่จะสละสิทธิ์ในการคัดออกและออกจากห้องดำมาแล้วไม่สามารถที่จะเปลี่ยนการตัดสินได้ ในตอนนี้จึงไม่มีผู้เข้าแข่งขันถูกคัดออก

  • ทีมที่ชนะแคมเปญ: ทีมลูกเกด
  • ผู้ที่ถูกส่งเข้ามาในห้องคัดออก: แบงค์ อนุสิทธิ และ กันน์ สรวิศ
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: ไม่มีใครถูกคัดออก

ตอนที่ 5 : Locker Room

ออกอากาศ 26 สิงหาคม 2560

ช่วงมาสเตอร์คลาส เมนเทอร์ลูกเกด ได้มาสอนเรื่องการถ่ายภาพแบบกลุ่ม ซึ่งทุกคนในกลุ่มต้องแสดงเรื่องราวเดียวกันทั้งหมดโดยที่ห้ามมีคนใดคนหนึ่งดูโดดเด่นกว่าคนในกลุ่ม หลังจากนั้นได้ให้ พีเค เติร์ท แซม และอติล่า ฝึกการโพสท์ท่าถ่ายภาพแบบกลุ่มโดยสวมบทบาทสมมติเป็นบอยแบนด์ ต่อมาได้ให้ กันย์ กันน์ แมน มิกกี้ นิคกี้ และธาม สวมบทบาทสมมติเป็นเป็นเด็กแว้น กลุ่มสุดท้ายที่มี โจเซฟ ฟิลลิปส์ มอส กุน แจ็ค และแบงค์ สวมบทบาทสมมติเป็นพริตตี้ บททดสอบคือ การถ่ายภาพแบบกลุ่มในแนวคิด So Excited Ever กับรถยนต์โตโยต้า โคโรลา อัลทิส เอสปอร์ต ซึ่งแต่ละคนได้จับฉลากเข้าทีมและได้แบบเสื้อผ้าที่ใส่เข้าฉาก ดังนี้

ผู้เข้าแข่งขันสไตล์
นิคกี้, อติล่า, แมนYoung Business
แจ็ค, ธาม, กุนCasual
มิกกี้, ฟิลลิปส์, เติร์ทSport
มอส, โจเซฟ, พีเคStreet
แบงค์, แซม, กันย์, กันน์Party

โดยแต่ละทีมจะมีเวลาถ่ายภาพ 1 นาที เมื่อถึงเวลาถ่ายภาพ กลุ่ม Young Business ถูกมองจากกลุ่มอื่นว่าได้โจทย์ง่ายที่สุด กลุ่ม Casual ถูก ลูกเกด วิจารณ์ว่าหมดพลังงานในการถ่ายภาพ กลุ่ม Sport เหมือนแนะนำเสื้อผ้าที่สวมใส่มากกว่าเน้นการแนะนำรถ อีกสองกลุ่มที่เหลือทำเต็มที่กับการถ่ายภาพในสไตล์ที่ตัวเองได้รับ หลังจากถ่ายภาพเสร็จ ลูกเกด ได้บอกว่า กลุ่ม Young Business ทำได้ดีขึ้นจากที่ยังไม่ได้ความรู้สึกที่ตื่นเต้น กลุ่ม Casual ถึงจะสื่ออารมณ์ได้ดี แต่ว่าโพสต์ท่าบังรถ กลุ่ม Sport ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายและชอบรูปตอนโพสต์ท่าวิ่งแม้จะไม่ได้เป็นภาพที่ถูกเลือก กลุ่ม Street สื่ออารมณ์ออกมาได้ดี แต่ยังรู้สึกว่าสามารถทำได้มากกว่านี้ กลุ่ม Party ดูแล้วมีความสุขและมีรูปให้เลือกเยอะมาก แต่นั่นเป็นการดึงความสนใจออกจากรถที่เป็นจุดเด่นในฉาก หลังจากนั้นแขกรับเขิญได้เลือกภาพของกลุ่ม Young Business ให้เป็นภาพที่ดีที่สุด และได้เลือกให้ นิคกี้ เป็นผู้ที่ชนะในช่วงนี้

  • ผู้ชนะมาสเตอร์คลาสประจำสัปดาห์: นิคกี้ นิกิ
  • แขกรับเชิญพิเศษ: ณัทธร ศรีนิเวศน์

ช่วงแคมเปญ ในสัปดาห์นี้คือ การถ่ายภาพกลุ่มในฉาก "Locker Room" แก๊ป พงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล ได้มาเป็นแขกรับเชิญในช่วงนี้และได้บอกถึงแนวคิดในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ Cathy Doll อโลสเนลเจลว่านหอย ติ๋ม พันธ์สิริ สิริเวชชะพันธ์ เป็นช่างถ่ายภาพในช่วงนี้ได้มาบอกวิธีการในการโพสต์ท่าเพื่อถ่ายภาพแบบกลุ่ม นิคกี้ ผู้ที่ชนะจากช่วงมาสเตอร์คลาสได้เลือกให้ทีมหมูเริ่มเป็นทีมแรก ตามด้วยทีมพีช และทีมลูกเกด แต่ละทีมจะมีเวลา 15 นาทีในการถ่ายภาพ ซึ่งใน 3 นาทีแรกต้องวางแผนกันเองในฉาก ในระหว่างที่ผู้เข้าแข่งขันไปเตรียมตัวเพื่อเริ่มแคมเปญ เมนเทอร์ของแต่ละทีมก็ได้ไปถามถึงแนวคิดกับแขกรับเชิญและช่างถ่ายภาพ หลังจากนั้นก็ได้ไปหาลูกทีมเพื่อเลือกเสื้อผ้าที่จะใส่เข้าฉากและกำหนดท่าทางในการถ่ายภาพ

เมื่อถึงเวลาถ่ายภาพ ทีมหมูเริ่มเป็นทีมแรก หมู ได้ไปยืนดูลูกทีมใกล้ฉากจนกระทั่งพิธีกรต้องบอกให้กลับไปนั่งที่เดิม แก๊ป ได้บอกว่า มีแต่ อติล่า ที่ยังขยับเปลี่ยนทีในการถ่ายภาพในขณะที่คนอื่นๆยังอยู่ตำแหน่งเดิม จนกระทั่งสามนาทีผ่านไป หมู ก็ได้เข้ามาฉีดน้ำพรมตัวให้ลูกทีม และได้เปิดประตูตู้ล็อกเกอร์บางตู้ มิกกี้ ได้รับคำชมจาก แก๊ป ว่า ยิ้มได้ตลอด แต่ ลูกเกด กลับมองว่า มิกกี้ ยังดูหน้าเดียวตลอดการถ่ายภาพ ทีมพีชเริ่มเป็นทีมที่สอง ลูกทีมได้ย้ายตำแหน่งของในฉากซึ่งทำให้แสงไฟที่ควรจะส่องในฉากเปลี่ยนไป สามนาทีหลังจากนั้น พีช ก็ได้ให้ลูกทีมย้ายของและให้ช่างภาพย้ายไฟส่องฉากไปอยู่ตำแหน่งเดิม ระหว่างนั้นลูกทีมก็ได้มีการทาผลิตภัณฑ์ในฉากด้วย หมู ได้บ่นออกมาเสียงดังตลอดเวลา แมน ได้ถอดกางเกงและนุ่งผ้าเช็ดตัวเข้าฉาก พีเค นั่งแหกขาในฉากเป็นส่วนใหญ่ ทีมลูกเกดเข้าฉากเป็นทีมสุดท้าย เนื่องจากลูกทีมทุกคนตัวใหญ่ เวลาที่เข้าฉากจึงดูแน่นไปถนัดตา แต่ให้ความรู้สึกที่ดูเหมือนเพิ่งออกกำลังกายเสร็จ เมื่อผ่านไปสามนาที ลูกเกด ได้ให้ลูกทีมบางคนย้ายตำแหน่งในฉากและให้ลูกทีมแสดงอารมณ์ในการถ่ายภาพไปด้วย

เมื่อการแข่งขันได้สิ้นสุดลง แก๊ป ได้บอก หมู ว่า ชอบผิวของลูกทีมที่ดูฉ่ำวาวตลอดเวลา ติ๋ม ก็ได้บอกว่า ชอบการแต่งและความฉ่ำวาวของผิวด้วยเช่นกัน ทีมพีช ถูกชมว่า ภาพที่ได้ดูสะอาดไม่รกตาและวางตำแหน่งได้สวย ทีมลูกเกด ทำได้ตรงโจทย์ที่ แก๊ป ได้ให้มากที่สุด แต่สิ่งของที่อยู่บนพื้นดูรกพอสมควร ติ๋ม ได้บอกว่าชอบการที่กล้องถ่ายภาพได้จังหวะที่โยนผลิตภัณฑ์เป็นแนวตรง ผลการตัดสินได้ให้ทีมหมูชนะในแคมเปญด้วยเหตุผลของ แก๊ป ที่บอกว่าผิวมีความฉ่ำวาวและดูชุ่มชื่นมากที่สุด โดยทีมที่ชนะจะได้รับผลิตภัณฑ์ Cathy Doll อโลสเนลเจลว่านหอยไปใช้ตลอดทั้งปี

  • ช่างถ่ายภาพ: พันธ์สิริ สิริเวชชะพันธ์ (ติ๋ม)
  • แขกรับเชิญพิเศษ: พงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล (แก๊ป)

เมื่อถึงช่วงเวลาคัดออก พีช ได้ส่ง พีเค ไป ส่วน ลูกเกด ได้ถามลูกทีมทุกคนถึงเหตุผลที่เข้ามาแข่งขันในเดอะเฟซเมนก่อนที่จะเลือก กันย์ ไปพบ หมู ทั้ง ๆ ที่ แจ็ค อยากจะเข้าไปเองเพื่อให้โอกาสคนในทีมที่อายุน้อยกว่าเขา เมื่อ พีเค และ กันย์ เข้าไปในห้องคัดออก หมู ได้ถามถึงเหตุผลที่เมนเทอร์ของแต่ละทีมได้ส่งเขาทั้งสองคนเข้ามา พีเค ได้บอกว่า เขายังมีศักยภาพและสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆในรายการได้อีก และเขาก็ได้พัฒนามากขึ้นกว่าครั้งที่เริ่มแข่งขัน หมู บอก พีเค ว่า พีช มีไฟนัลวอล์กของเขาอยู่แล้วคือ แมน ถ้า พีช ยังไม่พัฒนาในการเป็นเมนเทอร์ในรายการนี้ โจเซฟ กันน์ และตัวของ พีเค เองจะถูกส่งเข้ามาในห้องคัดออกเรื่อย ๆ พีเค จึงบอกต่อไปว่า แม้เขาจะไม่หวังสูงที่จะได้เข้าไฟนัลวอล์กแต่เขาตั้งใจที่จะเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เมนเทอร์ได้สอน หลังจากนั้น หมู ก็ได้ถาม กันย์ เขาตอบว่า ลูกเกด ได้ส่งเขามาเพราะหวังว่า หมู จะให้โอกาสเขาได้อยู่ต่อในรายการและตั้งใจที่จะเป็นนักแสดงตามที่เคยฝันให้ได้ หมู จึงถามต่อถึงเหตุผลที่อยากอยู่ต่อ กันย์ บอกว่า เขายังมีสิ่งต่างๆที่จะต้องเรียนรู้อีกมากและเชื่อว่าสามารถเป็นเดอะเฟซเมนได้ หมู จึงบอกว่าเห็นความพยายามของ กันย์ ที่เข้ามาแข่งขัน แต่ว่าแค่หน้าตาดีและเป็นคนที่ดูขึ้นกล้องอาจไม่พอ ต้องมีความตั้งใจและพยายามให้มากกว่านี้ ดังนั้น หมู จึงได้เลือก กันย์ ให้ออกจากเดอะเฟซเมนเป็นคนที่สาม และได้กลับไปบอก ลูกเกด ที่อยู่ในห้องรวมว่า มันคือเกม เพราะ ลูกเกด ไม่ได้สนใจ กันย์ อีกแล้ว แต่ ลูกเกด พูดว่า เธอรักลูกทีมของเธอทุกคน ในระหว่างที่ หมู พูดกับเมนเทอร์ในห้องรวม กันย์ ที่อยู่ข้างนอกหลังจากถูกคัดออกไปแล้วยังร้องไห้ด้วยความเสียใจและได้ฉีกภาพถ่ายที่เป็นผลงานของตนเองในรายการจนหมด

  • ทีมที่ชนะแคมเปญ: ทีมหมู
  • ผู้ที่ถูกส่งเข้ามาในห้องคัดออก: พีเค พัสกร และ กันย์ นครินทร์
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: กันย์ นครินทร์

ตอนที่ 6 : Victory Walk

ออกอากาศ 2 กันยายน 2560

ผู้เข้าแข่งขันโจทย์
ฟิลลิปส์, แมน, กุนปาร์ตี้
นิคกี้, อติล่า, แบงค์ไปงานแต่งงานเพื่อนที่มีผู้ใหญ่เป็นประธาน
เติร์ท, พีเค, กันน์ซิตี้ทัวร์กับเพื่อน
ธาม, โจเซฟ, มิกกิ้ดีไซน์เนอร์เชิญให้ไปดินเนอร์
มอส, แซม, แจ็คไปแคสติ้งงาน

สำหรับมาสเตอร์คลาสในตอนนี้ได้ไปแข่งกันที่ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ตือ สมบัษร ถิระสาโรช เป็นแขกรับเชิญอีกคนในช่วงนี้ แต่ละกลุ่มจะมีเวลา 10 นาทีในการเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับตัวเอง เมื่อถึงเวลาแข่งขัน ทุกคนต่างเร่งรีบในการเลือกของและแต่งตัวเนื่องจากเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด เมื่อหมดเวลาและเริ่มตัดสิน ตือ บอกว่าไม่ชอบการแต่งตัวชอง ฟิลลิปส์ ในกลุ่มแรก แต่ได้ชม แมน สำหรับกลุ่มที่สอง นิคกี้ และ อติล่า ถูกติเรื่องของรองเท้าที่เขาได้ใส่ ส่วน แบงค์ ถูกติเรื่องการใช้ผ้าพันคอ พีเค แต่งตัวได้ดีที่สุดในกลุ่มที่สาม รวมไปถึง โจเซฟ ในกลุ่มที่สี่ และ มอส ในกลุ่มที่ห้า ชื่อที่เป็นตัวหนาในตารางโจทย์คือผู้ที่ทำได้ดีที่สุดในกลุ่ม ผลการตัดสินได้ให้ มอส เป็นผู้ชนะในช่วงนี้ โดยจะได้รับผลิตภัณฑ์ L'Oreal Men Expert เป็นรางวัล

  • ผู้ชนะมาสเตอร์คลาสประจำสัปดาห์: มอส พิเชษฐ์
  • แขกรับเชิญพิเศษ: วันเพ็ญ แก้วนาเส็ง (เปิ้น) และ สมบัษร ถิระสาโรช (ตือ)

ช่วงแคมเปญ ในสัปดาห์นี้คือ การเดินแบบในแนวคิด "Victory Walk" โก้ วรนัยน์ วาณิชกะ และ ป๊อป กำพล ลิขิตกาญจนกุล ที่เป็นแขกรับเชิญในช่วงนี้ได้บอกถึงแนวคิดในการเดินแบบในช่วงนี้ โดยให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนสมมติตัวเองเป็นนักรบในยุคโรมันที่ชนะสงครามและได้กลับมาฉลองชัยชนะในเมือง มอส ผู้ที่ชนะจากช่วงมาสเตอร์คลาสได้เลือกให้ทีมหมูเริ่มเป็นทีมแรก ตามด้วยทีมลูกเกด และทีมพีช และได้เลือกเพลงประกอบการเดินแบบให้กับแต่ละทีมอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทุกทีมไม่สามารถซ้อมเดินแบบในเวทีจริงได้ จะมีแค่เมนเทอร์ของแต่ละทีมที่เข้ามาดูเวทีและสำรวจแท่นวิคทอรี หลังจากนั้นเมนเทอร์ของแต่ละทีมก็มาพบลูกทีมและวางแผนการเดินแบบ สำหรับ ลูกเกด ได้มีการปลุกใจลูกทีมให้มีความรู้สึกว่าเป็นนักรบโดยอาศัยแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่อง Gladiator นักรบผู้กล้าผ่าแผ่นดินทรราช

เมื่อถึงเวลาโชว์ ซึ่งเป็นช่วงที่ฝนกำลังตกอยู่ปรอย ๆ น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ และ ขุน ชานนท์ อักขระชาตะ ได้มาเป็นกรรมการตัดสินร่วม สิ่งที่ทำให้เมนเทอร์รวมไปถึง น้ำตาล และขุน ได้แปลกใจก็คือ ในแท่นวิคทอรีมีไลเกอร์อยู่ภายใน ทีมหมูได้เริ่มโชว์เป็นทีมแรก แบงค์ ยังไม่เป็นที่น่าจดจำ กรรมการได้บอกว่าโชว์ยังดูนิ่งซึ่งน่าจะมีอะไรที่โดดเด่นมากกว่านี้ ในช่วงหลังโชว์ที่ออกมาไม่ได้เป็นไปตามที่วางแผนเอาไว้เพราะ เติร์ท ได้ขึ้นบนแท่นวิคทอรีสวนกับทุกคนในทีมที่กำลังจะลงไปซึ่งทำให้ หมู รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก ทีมลูกเกดเริ่มเป็นทีมที่สอง พีช รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่ไม่มีเพลงประกอบในตอนที่ นิคกี้ เดินออกมาและก้มลงถือดินกำไว้ในมือและโปรยลงพื้น อย่างไรก็ตาม มีการผิดคิวเล็กน้อยเมื่อ ฟิลลิปส์ เดินตาม กุน ออกมา แต่คนในทีมที่เหลือก็แก้สถานการณ์โดยเดินตามกันออกมาด้วย กรรมการบอกว่าโชว์ได้ดีไม่เยอะจนเกินไปและได้ชม นิคกี้ ที่ดูโดดเด่นที่สุดในทีม ทีมพีชได้โชว์เป็นทีมสุดท้าย โจเซฟ เป็นคนที่ ลูกเกด บอกว่าให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่เหมือน จูเลียส ซีซาร์ กันน์ และ พีเค เดินได้ดีขึ้น แต่ใบหน้าของ กันน์ ที่สื่อออกมายังดูไม่มีพลัง โชว์เริ่มยืดเยื้อเมื่อทุกคนในทีมเดินวนไปวนมาโดยที่ยังไม่ขึ้นแท่นวิคทอรี เมื่อทุกคนขึ้นแท่นวิคทอรีและเดินกลับไปที่ประตูชัยแล้ว พีเค และ โจเซฟ ได้วิ่งไปที่แท่นวิคทอรีและขึ้นไปยืนพร้อมกับทุกคนในทีมอีกครั้งซึ่งเป็นที่ตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก

เมื่อการแข่งขันได้สิ้นสุดลง กรรมการทุกคนได้บอกว่าชอบทุกทีมแต่ได้ลงความเห็นว่ามีทีมที่ชอบที่สุดอยู่ในใจ ซึ่งทีมนั้นก็คือทีมของลูกเกด ซึ่งทำให้ ลูกเกด คว้าชัยชนะในครั้งนี้ไป โดยทีมที่ชนะจะได้รับผลิตภัณฑ์ Dr.C Truth Whitening Serum ไปใช้ด้วย

เมื่อถึงช่วงเวลาคัดออก ลูกทีมบางส่วนของ ลูกเกด ที่กำลังรออยู่ในห้องได้แอบไปซ่อนตัวในมุมต่าง ๆ ให้ ลูกเกด ได้รู้สึกแปลกใจ จากนั้น ลูกเกด ได้ชื่นชมลูกทีมที่ทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะ นิคกี้ ที่ดูโดดเด่น จากนั้นได้พูดถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในทีม ซึ่ง ฟิลลิปส์ ได้ยอมรับผิดในส่วนนี้เนื่องจากเกิดการผิดคิวเล็กน้อย ก่อนที่ ลูกเกด จะบอกคนในทีมว่าชนะในช่วงแคมเปญ ฝั่งทีมพีชได้ส่ง กันน์ ไปพบ ลูกเกด เป็นครั้งที่สอง ส่วนทีมหมู หมู ได้บอกว่า ถ้าเป็นไปได้จะส่งทุกคนเข้าห้องดำทั้งหมดเพราะไม่มีใครที่ทำได้ดีที่สุด แต่แล้ว หมู ได้ส่งลูกทีมไปสามคนคือ แบงค์ แซม และ มิกกี้ เมื่อทั้งสี่คนไปถึงห้องคัดออก ลูกเกด แปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นลูกทีมของทีมหมูเข้ามาถึงสามคน อีกทั้งยังเจอ กันน์ กับ แบงค์ เป็นครั้งที่สอง จากนั้น ลูกเกด ได้ถามถึงเหตุผลที่เมนเทอร์ของแต่ละทีมได้ส่งเข้ามา มิกกี้ ได้บอกว่า ทั้งตัวเขา แซม และ แบงค์ ทำผลงานในแคมเปญในสัปดาห์นี้ได้แย่ที่สุด เช่นเดียวกับ กันน์ ที่เขาบอกว่าทำผลงานในสัปดาห์นี้ได้ไม่ดีพอ แบงค์ ได้บอกว่า ถ้าเขาถูกคัดออกไปในครั้งนี้จะไม่เสียใจเพราะว่าเขาได้พัฒนาตัวเขาเองได้มากที่สุดแล้ว หลังจากที่ทุกคนพูดจบแล้ว ลูกเกด ได้บอกว่า แต่ละคนที่ถูกส่งเข้ามามีทั้งจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป มิกกี้ มีหน้าตาและรูปร่างที่ดีแต่ถ่ายรูปออกมีหน้าเดียวตลอด แซม ที่คิดไว้ตั้งแต่แรกว่าจะเข้าไฟนัลวอล์กได้แต่ยิ่งอยู่ในรายการนาน ๆ ก็ยังไม่เห็นความเจิดจรัสในตัวเขา สำหรับ แบงค์ เมื่อมีแคมเปญที่ต้องเดินแบบกลับไม่เป็นที่น่าจดจำจนถูกลืมไปว่ามีเขาอยู่ในทีม กันน์ ไม่ได้เป็นคนที่หุ่นดีแหละหน้าตาดีเหมือนคนอื่น ๆ แต่มีบุคลิกและตัวตนที่ชัดเจนมาก หลังจากนั้น ลูกเกด ได้ตัดสินใจเลือก แบงค์ ให้ออกจากเดอะเฟซเมนเป็นคนที่สี่ และได้กลับไปบอกเมนเทอร์ทั้งสองคนที่อยู่ในห้องรวมให้ไปดูลูกทีมในห้องดำกันเอาเอง พีช รู้สึกดีใจที่ กันน์ ไม่ถูกคัดออก ในขณะที่ มิกกี้ และ แซม รู้สึกเสียใจมากที่ หมู เข้ามาดูทั้งสองสักพักก่อนที่จะเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร พีช จึงได้มาปลอบใจทั้งสองก่อนที่จะพาออกจากห้องคัดออกพร้อมกับ กันน์

  • ทีมที่ชนะแคมเปญ: ทีมลูกเกด
  • ผู้ที่ถูกส่งเข้ามาในห้องคัดออก: กันน์ สรวิศ, แบงค์ อนุสิทธิ, แซม เพ็ญพิชญ์ และ มิกกี้ นนท์
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: แบงค์ อนุสิทธิ

ตอนที่ 7 : Newly Wet Couple

ออกอากาศ 9 กันยายน 2560

ช่วงมาสเตอร์คลาส เมนเทอร์พีช ได้มาสอนเรื่องการแสดงโดยเน้นไปที่เป้าหมายของตัวละคร หลังจากนั้นได้ให้ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนแสดงบทบาทที่แตกต่างกันไป ซึ่งแต่ละคนก็ยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร เจด้า อภิสราฐ์ เพชรเรืองรอง ได้มาสอนเสริมเกี่ยวกับบุคลิกภาพในการแสดงเบื้องต้น โดยเฉพาะการโพสต์ท่า แก๊ป พงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล ได้ให้บททดสอบในช่วงนี้ คือ การแสดงมิวสิควีดีโอให้กับผลิตภัณฑ์ของ Cathy Doll โดยมีการเต้นและร้องเพลง Tone Me Up ที่ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ได้ร้องเอาไว้ ทีเจ จิรายุทธ ผโลประการ ได้มาช่วยเหลือเรื่องการแร็พในช่วงนี้ ในการแข่งขันได้แบ่งผู้เข้าแข่งขันออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มผู้เข้าแข่งขัน
1ธาม, นิคกี้, แซม, มิกกี้
2อติล่า, กุน, แจ็ค
3พีเค, กันน์, มอส, โจเซฟ
4เติร์ท, ฟิลลิปส์, แมน

เมื่อถึงเวลาแข่งขัน ทุกกลุ่มต่างมีข้อผิดพลาดแตกต่างกันไป กลุ่มแรกยังเต้นไม่มีพลังและทำพลาดช่วงร้องท่อนแร็พเช่นเดียวกับกลุ่มที่สอง กลุ่มที่สามมีช่วงแร็พดีที่สุดแต่ร้องคร่อมจังหวะในช่วงสุดท้าย ในขณะที่กลุ่มที่สี่มีช่วงเต้นดูธรรมดาแต่ดูพร้อมเพรียงกันและร้องช่วงแร็พผิดจังหวะไปบ้างแต่ยังดูสนุก ซึ่งทำให้ พีช เลือกกลุ่มที่สี่เป็นกลุ่มที่ทำได้ดีที่สุด และ ฟิลลิปส์ เป็นผู้ที่ชนะในช่วงนี้ โดยจะได้ผลิตภัณฑ์ Cathy Doll ครีมกันแดดละอองน้ำ ไปใช้ตลอด 1 ปี

  • ผู้ชนะมาสเตอร์คลาสประจำสัปดาห์: ฟิลลิปส์ ณัทธนพล
  • แขกรับเชิญพิเศษ: อภิสราฐ์ เพชรเรืองรอง (เจด้า), พงศ์วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล (แก๊ป) และ จิรายุทธ ผโลประการ (ทีเจ)

ช่วงแคมเปญ ในสัปดาห์นี้คือ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ Head & Shoulders Suprême ในรูปแบบโฆษณาบนหน้านิตยสาร โดย สิริกาญจน์ อัศวสุดสาคร ได้มาบอกแนวคิดในการถ่ายภาพในครั้งนี้ซึ่งมีความต่อเนื่องจากตอนที่ 4 ฟิลลิปส์ ผู้ที่ชนะจากช่วงมาสเตอร์คลาสได้เลือกลำดับและนางแบบรับเชิญที่จะมาร่วมแคมเปญให้กับแต่ละทีม ดังนี้

ทีมคู่
พีชสกาย
หมูกวาง
ลูกเกดเจสซี่

ก่อนที่จะเริ่มการแข่งขัน พิธีกรได้เชิญเมนเทอร์ทั้งสามทีมออกมา และได้บอกกติกาพิเศษสำหรับตอนนี้ คือ หลังจากที่จบแคมเปญ เมนเทอร์ของแต่ละทีมต้องคัดลูกทีมของตัวเองที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดออกทีมละ 1 คน โดยการคัดออกในห้องดำยังมีตามปกติ นั่นหมายความว่าจะต้องมีผู้เข้าแข่งขันถูกคัดออกในตอนนี้ถึง 4 คน ซึ่งกติกาดังกล่าวได้สร้างความตกใจให้กับเมนเทอร์ทั้งสามคนและผู้เข้าแข่งขันที่เหลืออยู่เป็นอย่างมาก หลังจากนั้น เมนเทอร์ของแต่ละทีมก็ได้ไปถามถึงแนวคิดกับแขกรับเชิญและ โจ สุรัตน์ จริยวัฒนวิจิตร ซึ่งเป็นช่างถ่ายภาพในครั้งนี้ และได้ไปวางแผนการโพสต์ท่ากับลูกทีมของตนเองพร้อมกับพูดคุยถึงแนวคิดในการถ่ายแบบให้กับนางแบบรับเชิญด้วย

เมื่อถึงเวลาแข่งขัน มาริโอ้ เมาเร่อ ได้มาเป็นแขกรับเชิญในช่วงนี้ ทีมพีชเริ่มเป็นทีมแรก พีช ได้ให้ พีเค เข้าฉากเป็นคนแรก ซึ่งมีการเล่นฟองแชมพูกับ สกาย โดยมี โจเซฟ ช่วยบอก แต่สายตาของ พีเค ยังมองมาที่เพื่อนร่วมทีมมากกว่ามองมาทาง สกาย เมื่อ โจเซฟ เข้าฉาก พีช ได้เอาม้านั่งเข้ามาให้ สกาย ยืนเพื่อให้สูงพอที่จะสระผมให้ โจเซฟ ได้ถนัด หลังจากนั้นได้เปลี่ยนให้ กันน์ เข้าฉากต่อ ซึ่งแขกรับเชิญบอกว่า การเคลื่อนไหวในฉากทำให้รู้สึกว่าเป็นแฟนกันและให้ความรู้สึกที่ดูเป็นธรรมชาติ แต่อุปสรรคได้เกิดขึ้นเมื่อฟองแชมพูเข้าตาของ กันน์ ซึ่งทำให้แสบตาจนลืมตาแทบไม่ได้ เมื่อ แมน เข้าฉาก สกาย บอกว่าตัวสูงมากเมื่อต้องใช้มือสระผมให้ พีช ได้ให้ สกาย หมุนตัวใต้แขนของ แมน ให้รู้สึกว่ากำลังเต้นรำกันอยู่ ทีมหมูเริ่มเป็นทีมที่สอง หมู ได้ให้ลูกทีมกระโดดลงสระน้ำเพื่อให้คลายความตื่นเต้น แซม ที่เข้าฉากไปได้ไม่นานก็ต้องแสบตาเพราะฟองแชมพูจนต้องเปลี่ยนให้ ธาม เข้าฉากต่อ แต่เมื่อถ่ายไปได้สักพัก ธาม ก็ต้องแสบตาไปอีกคนจนต้องเปลี่ยนให้ มิกกี้ เข้าฉาก ซึ่งทำให้ หมู รู้สึกแย่ในตัว แซม และ ธาม ที่ไม่มีความอดทนมากพอ หลังจากนั้นได้ให้ เติร์ท เข้าฉากต่อ ตามด้วย อติล่า ซึ่งได้อุ้ม กวาง ขึ้นมาทันที เมื่อเหลือเวลาอีก 5 นาที หมูก็ได้ให้ลูกทีมเกือบทุกคนสลับกันเข้าฉากอีกครั้ง ยกเว้น อติล่า ที่ไม่ทันได้เข้าฉากอีกครั้งเพราะเวลาหมด ทีมลูกเกดที่เป็นทีมสุดท้าย ได้มีการให้ลูกทีมกระโดดลงสระน้ำเช่นเดียวกับทีมหมู หลังจากนั้นได้ให้ ฟิลลิปส์ เข้าฉากเป็นคนแรก ตามด้วย แจ็ค และ กุน ซึ่ง เจสซี่ ติดการโพสท์ท่าที่เยอะเกินไปจน ลูกเกด รู้สึกกังวล เมื่อ มอส เข้าฉาก ลูกเกด จึงได้บอก เจสซี่ ลดการโพสท์ท่าให้เบาลง และได้ให้กระโดดขี่หลังของ มอส เมื่อถึงคิวของ นิคกี้ ลูกเกด ได้เปลี่ยนให้ นิคกี้ สระผมให้ เจสซี่ ในฉาก เมื่อทุกทีมถ่ายภาพเสร็จ พิธีกรได้ให้เมนเทอร์ของแต่ละทีมเลือกรูปที่ดีที่สุดของลูกทีมแต่ละคน และได้ถ่ายภาพในฉากร่วมกับ มาริโอ้

เมื่อการแข่งขันได้สิ้นสุดลง มาริโอ้ ไม่ได้อยู่ร่วมตัดสินเนื่องจากติดภารกิจ แต่ได้ฝากผลตัดสินให้กับ สิริกาญจน์ เอาไว้แล้ว โดย สิริกาญจน์ ได้ให้ความเห็นภาพของทีมพีชว่า มี กันน์ ที่สื่ออารมณ์กับนางแบบได้ดีที่สุด สำหรับทีมหมู มี อติล่า ที่อุ้มนางแบบเป็นภาพที่ดูโดดเด่นในทีม ส่วนทีมลูกเกด ได้รับความเห็นว่ามีการจัดตำแหน่งที่ดี แต่ภาพของ แจ็ค ติดการโพสต์ท่าไปพอสมควร หลังจากนั้นได้เลือกภาพของ กันน์ อติล่า และ มอส เป็นภาพที่ดี่ที่สุดในแต่ละทีม และผลการตัดสินได้ให้ภาพของ อติล่า เป็นภาพที่ดีที่สุด นั่นทำให้ทีมหมูชนะในแคมเปญครั้งนี้

ก่อนที่เมนเทอร์จะบอกผลการแข่งขันให้กับลูกทีมของตนเอง เมนเทอร์ของแต่ละทีมต้องคัดลูกทีมของตัวเองที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดออกทีมละ 1 คน สำหรับทีมหมู ธาม ได้ยอมรับว่าตัวเองทำได้แย่ที่สุดในทีม หมู จึงได้เลือก ธาม ออกจากทีม พีเค จากทีมพีช ได้ขอยอมที่จะถูกคัดออกในครั้งนี้เพื่อรักษาเพื่อน ๆ ในทีมเอาไว้ ส่วนทีมลูกเกด หลังจากที่ฟังความในใจของ กุน และ มอส ลูกเกด จึงพิจารณาสิ่งที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มต้นรายการ และได้ตัด นิคกี้ ออกจากทีม โดยให้เหตุผลว่า เขาไม่รักษาโอกาสที่มีอยู่ของเขาเอาไว้ เมื่อมีการนัดให้ไปฝึกซ้อมเพิ่มเติมก็ไม่เคยสนใจ ซึ่งไม่สามารถปรับทัศนคติให้ดีกว่านี้ได้อีกแม้ว่าเขาจะทำผลงานที่ผ่าน ๆ มาได้ดีที่สุดก็ตาม

  • ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกคัดออกโดยเมนเทอร์ของทีมตนเอง: ธาม พิชิตสุรกิจ, พีเค พัสกร และ นิคกี้ นิกิ

เมื่อถึงช่วงเวลาคัดออก หมู ได้บอก อติล่า ว่า เป็นคนที่ได้ภาพถ่ายน้อยที่สุด แต่ภาพที่ อติล่า อุ้ม กวางในฉาก เป็นภาพที่ทำให้ทีมชนะแคมเปญ สำหรับทีมพีช บอก แมนว่า ผลงานดูราบเรียบ แต่ได้ชม โจเซฟ ว่า ทำได้ดีมาก ส่วน กันน์ ได้บอกว่ามีปัญหาในเรื่องสมาธิแต่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่ พีช ได้เลือก กันน์ เข้าห้องคัดออกเป็นครั้งที่สามโดยหวังว่าเขาจะใช้สติในการเอาตัวรอดเพื่อกลับมาหาทีมอีกครั้ง ส่วนทีมลูกเกด ได้เลือก แจ็ค เนื่องจากแคมเปญครั้งนี้เขาอ่อนที่สุดในทีม เมื่อกัน และ แจ็ค ไปถึงห้องคัดออก หมู จึงได้ถามเหตุผลที่เมนเทอร์ได้ส่งพวกเขามา กันน์ บอกว่า เป็นเพราะว่าแคมเปญที่ผ่านมาเขามีสมาธิน้อยที่สุดแม้ว่าภาพของเขาที่ได้เลือกจะดีที่สุดในทีม แจ็ค ได้บอกว่า ลูกเกด หวังในตัวเขาว่าเขาจะได้กลับไปอีกครั้งเพราะเขาไม่เคยมีประสบการณ์ในวงการแม้แต่น้อยแต่เขาได้เรียนรู้และพยายามพัฒนาตัวเองและคากหวังว่าจะเป็นตัวแทนจากประเทศจีนที่จะได้เป็นเดอะเฟซเมน หมู ได้บอกว่าเห็นความพยายามของ แจ็ค และได้พูดกับ กันน์ ว่า ที่ พีช บอกว่าเขาสมาธิสั้นในแคมเปญที่ผ่านมานั่นไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงที่ถูกส่งมาในห้องดำ เพราะเหตุผลที่แท้จริงคือ พีช ต้องการเก็บ แมน เอาไว้เนื่องจาก แมน เป็นคนที่อ่อนที่สุดในทีมจากแคมเปญที่ผ่านมา อีกทั้งยังบอกว่า ลูกทีมของทีมพีชที่มีอยู่ในตอนนี้มีศักยภาพมากแต่เลือกเมนเทอร์ผิดคน และ การที่ กันน์ มาถึง ณ จุดนี้ได้โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากเมนเทอร์ในทีมถือว่ามีศักยภาพที่ใช้ได้ ในขณะที่ หมู กำลังพูดเปรียบเทียบผลงานของทั้งสองคน แจ็ค เดินมาหา หมู เพื่อมารับแฟ้มผลงานเพราะนึกว่าเขาถูกคัดออก แต่ หมู ได้บอกให้หยุดก่อนเพราะยังไม่ได้ตัดสิน และได้บอกว่า ถ้าเทียบผลงานของ กัน และ แจ็ค แล้ว แจ็ค ทำได้ดีที่สุด แต่นั่นก็ไม่สามารถชดเชยให้กับผลงานที่แย่ในครั้งล่าสุดนี้ได้ ดังนั้น หมู จึงได้ เลือก แจ็ค ให้ออกจากเดอะเฟซเมนเป็นคนที่แปด และได้พา กันน์ กลับไปห้องรวมพร้อมกับบอก โจเซฟ ว่า ครั้งต่อไปถ้าแพ้แคมเปญ กันน์ หรือ โจเซฟ คือคนที่ถูกเข้าห้องดำเพราะ พีช ไม่มีทางที่จะส่ง แมน ไปแน่นอน และได้ยื่นเสื้อยืดที่มีข้อความพิมพ์ไว้ว่า "#CALLMEDADDY" ให้ ลูกเกด ก่อนที่จะออกจากห้องรวม โดยที่ ลูกเกด รู้สึกแปลกใจที่เห็น กันน์ รอดจากการถูกคัดออกเป็นครั้งที่สาม

  • ทีมที่ชนะแคมเปญ: ทีมหมู
  • ผู้ที่ถูกส่งเข้ามาในห้องคัดออก: กันน์ สรวิศ และ แจ็ค ซู
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: แจ็ค ซู

ตอนที่ 8 : Alpha Move by Alpha Men

ออกอากาศ 16 กันยายน 2560

ช่วงมาสเตอร์คลาส เมนเทอร์พีช ได้มาสอนเรื่องการแสดงโดยเน้นไปที่การสื่อถึงความรู้สึกตามบทบาทที่กำหนด หลังจากนั้นให้พิธีกรแสดงให้ดูเป็นตัวอย่างโดย พีช ได้พูดใส่ความรู้สึกไปด้วย หลังจากนั้นได้ให้ผู้เข้าแข่งขันจับคู่กันฝึก เมื่อทุกคนฝึกกันเสร็จ มิ้ง เสาวคนธ์ พรพัฒนารักษ์ ซึ่งเป็นแขกรับเชิญในช่วงนี้ได้มาให้โจทย์ โดยบททดสอบคือ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ Namu Life SnailWhite Crème Body Wash โดยสมมติเหตุการณ์ชวนให้แฟนมาอาบน้ำ โดยแต่ละคนได้โจทย์มา ดังนี้

ผู้เข้าแข่งขันบทบาท
แมน, มิกกี้, มอสคุณหนูบ้านรวย
กุน, ฟิลลิปส์, โจเซฟ, เติร์ทนักธุรกิจ
แซม, กันน์, อติล่าเด็กฮิปฮอป

ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะต้องคิดบทพูดขึ้นมาเองซึ่งมีเวลา 1 นาทีในการทำบททดสอบ เมื่อถึงเวลา ผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่ทำได้ดี แต่ มอส ยังตีโจทย์ที่ได้รับมาไม่ตรงจุด ฟิลลิปส์ พูดประโยคที่กำกวมจนสื่อความหมายไปอีกด้าน กุน และ กันน์ มีบทพูดที่สั้นเกินไป แซม และ อติล่า สวมบทที่ได้รับจนดูล้น หลังจากนั้น มิ้ง ก็ได้เลือกผู้ที่ทำได้ดีในแต่ละโจทย์ซึ่งปรากฏชื่อเป็นตัวหนาในตารางโจทย์ ซึ่งผู้ที่ชนะในช่วงนี้คือ แมน โดยจะได้รับผลิตภัณฑ์ Namu Life SnailWhite Crème Body Wash เป็นรางวัล และคลิปของแมนในช่วงนี้จะถูกโปรโมทย์ทางสื่อออนไลน์ด้วย

  • ผู้ชนะมาสเตอร์คลาสประจำสัปดาห์: แมน ธฤษณุ
  • แขกรับเชิญพิเศษ: เสาวคนธ์ พรพัฒนารักษ์ (มิ้ง)

ช่วงแคมเปญ ในสัปดาห์นี้คือ การถ่ายทีวีสกู๊ป ด้วยแนวคิด "Alpha Move by Alpha Men" เพื่อนำเสนอให้กับผลิตภัณฑ์ L'Oreal Men Expert โดย เปิ้น วันเพ็ญ แก้วนาเส็ง ที่เป็นแขกรับเชิญในช่วงนี้ได้มาบอกถึงแนวคิดในการถ่ายทีวีสกู๊ปในครั้งนี้ โดยจะมีการแบ่งออกเป็นสามช่วงอายุตามผลิตภัณฑ์ที่ได้กำหนดเอาไว้ แมน ผู้ที่ชนะจากช่วงมาสเตอร์คลาสได้เลือกลำดับการแข่งขันและโจทย์ให้กับแต่ละทีม ดังนี้

ทีมโจทย์ช่วงอายุที่ได้รับผลิตภัณฑ์
ลูกเกด35L'Oreal Men Expert Vita Lift
หมู16L'Oreal Men Expert White Active Oil Control
พีช25L'Oreal Men Expert Hydra Energetic

แต่ละทีมจะมีเวลาในการถ่ายทำ 15 นาทีโดยเป็นการถ่ายทำแบบลองเทค หลังจากนั้น ซาบิน่า ก็ได้เชิญ ลูกเกด และ พีช ออกมา แล้วบอกกับทุกคนว่า หมู ไม่สามารถมาร่วมแคมเปญในครั้งนี้ได้เนื่องจากป่วย อย่างไรก็ตาม คุณหญิงแมงมุม หม่อมราชวงศ์ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุล ได้มาทำหน้าที่เป็นเมนเทอร์แทน หมู ในช่วงนี้

  • เมนเทอร์รับเชิญพิเศษ: หม่อมราชวงศ์ศรีคำรุ้ง ยุคล รัตตกุล (คุณหญิงแมงมุม)

หลังจากนั้น เมนเทอร์ของแต่ละทีมก็ได้ไปถามถึงแนวคิดกับแขกรับเชิญ และได้มาบอกกับลูกทีมของตัวเองพร้อมกับวางแผนในการเข้าฉาก สำหรับทีมหมูที่มี คุณหญิงแมงมุม มาทำหน้าที่แทน ได้มีวีดีโอคอลจาก หมู เพื่อพูดคุยและให้กำลังใจกับลูกทีมที่กำลังจะเข้าสู่แคมเปญ

เมื่อถึงเวลาแข่งขัน ทีมลูกเกดได้เริ่มเป็นทีมแรก ลูกเกดได้ทำการฝึกซ้อมให้กับลูกทีมอีกเล็กน้อยก่อนที่จะให้แต่ละคนได้เข้าฉาก กุน ทำพลาดในช่วงล้างหน้าและช่วงแต่งตัว มอส จึงได้เข้าฉากต่อ แต่ มอส ก็ทำพลาดในช่วงบทพูดปิดท้ายที่ดูแข็งเกินไป ฟิลลิปส์ มือสั่นตอนใส่แว่นก่อนจะออกจากประตู เมื่อ มอส และ ฟิลลิปส์ เข้าฉากเสร็จแล้ว จึงให้ กุน เข้าฉากอีกครั้ง แต่ก็ยังทำได้ไม่ดีขึ้น ทีมหมูเริ่มเป็นทีมที่สอง คุณหญิงแมงมุม ได้ให้ลูกทีมทุกคนถอดเสื้อและวางแผนการเข้าฉากอีกเล็กน้อย มิกกี้ มีสายตาที่แข็งตลอดเวลาเข้าฉาก เติร์ท ประสบปัญหาเล็กน้อยในช่วงที่ใส่กางเกง อติล่า ไม่ได้ยินที่ คุณหญิงแมงมุม บอกให้ติดกระดุมกางเกงเม็ดเดียว อีกทั้ง ลูกเกด และ พีช มองว่าบุคลิกดูแก่เกินวัยสิบหก คุณหญิงแมงมุม ได้สังเกตว่าลูกทีมเปิดประตูตู้เสื้อผ้าผิดบานกันหมดหลังจากที่ได้ให้ แซม เข้าฉากเป็นคนสุดท้าย ทีมพีชได้เข้าฉากเป็นทีมที่สาม กันน์ ใช้เวลาในการแต่งตัวในฉากค่อนข้างนาน โจเซฟ ได้รวบผมก่อนล้างหน้าในฉากซึ่ง เปิ้น บอกว่าดูดี แต่ คุณหญิงแมงมุม บอกว่าท่าทางทาครีมของทีมพีชดูแปลกและค่อนข้างประดิษฐ์ แมน ทาครีมมือเดียวจน เปิ้น สังเกตได้ อีกทั้งยังพูดประโยคปิดท้ายผิดไปจากบทที่มี

เมื่อการแข่งขันได้สิ้นสุดลง เปิ้นได้บอกว่าเป็นความท้าทายของทีมลูกเกดที่ได้เริ่มเป็นทีมแรก ซึ่งทำได้ดีตั้งแต่ลุกจากเตียงจนถึงตอนที่ทาครีม แต่การผูกเชือกรองเท้าในฉากที่ใช้เวลานานจึงทำให้พลังงานดูหายไป โดยได้ให้ ฟิลลิปส์ เป็นคนที่ทำได้ดีที่สุดในทีม สำหรับทีมหมู เปิ้น บอกว่าการแสดงของลูกทีมตรงโจทย์ที่กำหนด สำหรับ อติล่า ถ้าดูจากการแสดงความรู้สึกโดยไม่เน้นใบหน้าถือว่าที่ทำได้ดีที่สุดในทีม ส่วนทีมพีช ได้รับคำชมว่ามีการกระตุ้นพลังงานในฉากได้ดีมาก โดยเฉพาะ โจเซฟ แต่ถูกติเรื่องการทาครีมที่ใช้เวลาค่อนข้างนาน และ แมน คือคนที่ทำได้ดีที่สุดในทีม ผลการตัดสินปรากฏว่า อติล่า เป็นผู้ที่ทำผลงานได้ดีที่สุด ซึ่งทำให้ทีมหมูเป็นทีมที่ชนะในแคมเปญอีกครั้ง โดยทีมที่ชนะจะได้รับผลิตภัณฑ์ L'Oreal Men Expert เป็นรางวัล

  • ทีมที่ชนะแคมเปญ: ทีมหมู
  • ผู้ที่ถูกส่งเข้ามาในห้องคัดออก: กันน์ สรวิศ และ กุน กิตติคุณ
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: กุน กิตติคุณ

ตอนที่ 9 : Body Pose

ออกอากาศ 23 กันยายน 2560

  • ผู้ชนะมาสเตอร์คลาสประจำสัปดาห์: แมน ธฤษณุ
  • แขกรับเชิญพิเศษ: ยุกต์ ส่งไพศาล (สน)
  • ผู้เข้าแข่งขันที่ถูกเลือกจากเมนเทอร์: อติล่า อาร์เธอร์, แมน ธฤษณุ และ ฟิลลิปส์ ณัทธนพล
  • ผู้ที่ชนะแคมเปญ: อติล่า อาร์เธอร์ และ โจเซฟ แองเจโล
  • ผู้เข้าแข่งขันคนที่สี่และคนที่ห้าที่ถูกเลือกโดยเมนเทอร์จากทีมที่ชนะแคมเปญ: เติร์ท ธนาภพ และ โจเซฟ แองเจโล
  • ผู้ที่ถูกคัดออก: มิกกี้ นนท์, แซม เพ็ญพิชญ์, กันน์ สรวิศ และ มอส พิเชษฐ์

ตอนที่ 10 : Final Walk

ออกอากาศ 30 กันยายน 2560

แหล่งที่มา

WikiPedia: เดอะเฟซเมนไทยแลนด์ ซีซัน 1 http://www.ch3thailand.com/news/other/11527 http://news.voicetv.co.th/entertainment/503197.htm... https://www.facebook.com/thefaceth/ https://www.instagram.com/p/BSbmA7vjhzM/ https://www.instagram.com/thefacethailand/ https://www.twitter.com/thefacethailand https://www.youtube.com/user/KantanaGroup https://www.youtube.com/watch?v=p6C8xOe3zCQ https://www.dailynews.co.th/entertainment/601656 https://www.thairath.co.th/content/898427